Wedding Planner จำเป็นจริงไหม? ทำอะไรบ้าง?

งานแต่งงานเป็นหนึ่งในเหตุการณ์สำคัญที่สุดในชีวิตที่หลายคนใฝ่ฝันถึง งานแต่งที่สวยงาม น่าประทับใจ แต่ติดขัดเรื่องเวลา Wedding Planner อาจจะเป็นคำตอบที่ใช่สำหรับคุณ! ผู้ช่วยวางแผนและจัดการงานแต่งงานในขณะที่คุณสามารถโฟกัสกับอย่างอื่นได้ แต่ Wedding Planner จำเป็นจริงไหมและทำอะไรบ้างลองมาดูกัน

หน้าที่หลักของ Wedding Planner มีอะไรบ้าง?

ก่อนจะเริ่มต้นเปรียบเทียบความจำเป็นในการจ้าง Wedding Planner ลองมาดูกันก่อนว่าบุคคลเหล่านี้ มีหน้าที่ทำอะไรบ้าง

1. วางแผนและจัดการงานแต่งงาน

กำหนดธีมงาน รูปแบบงาน งบประมาณ หาสถานที่จัดงาน จอง Vendor เช่น ร้านอาหาร เจ้าของสถานที่ และเช่าเฟอร์นิเจอร์จัดธีมงานต่าง ๆ ออกแบบงาน ตกแต่งสถานที่ วางผังงาน กำหนดเวลา ควบคุมดูแลงานในวันจริง

2. ประสานงานกับทุกฝ่าย

ติดต่อสื่อสารกับคู่บ่าวสาว ครอบครัว เพื่อน ประสานงานกับสถานที่ Vendor ทีมงาน แก้ปัญหาเฉพาะหน้าในระหว่างการจัดเตรียมงาน

3. ให้คำปรึกษาและแนะนำ

แนะนำเกี่ยวกับรูปแบบงาน สถานที่ Vendor ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับงบประมาณ ช่วยตัดสินใจเลือกสิ่งต่าง ๆ อย่างเป็นมีอาชีพเพื่อป้องกันความผิดพลาด

4. บริหารจัดการงาน

ควบคุมค่าใช้จ่าย จัดการเอกสาร สัญญา ดูแลเรื่องอาหาร เครื่องดื่ม ดูแลความเรียบร้อยของงาน อาจจะรวมไปถึง การหาชุดแต่งงาน เรียบหรู เครื่องประดับ ของชำร่วย จองรถ บริการรับส่ง หาช่างภาพ ช่างวิดีโอ เตรียมเอกสารสำหรับจดทะเบียน ตามตกลงเพื่อให้งานเดินได้อย่างสมูทยิ่งขึ้น

เนื่องจาก Wedding Planner เป็นผู้ช่วยในการจัดงาน ก่อนอื่นเราลองมาทำความรู้จักกับข้อดีของเสียในการจัดจ้างแพลนเนอร์งานแต่งงานกันก่อน

ข้อดี
● จัดการติดต่อประสานงานกับทุกฝ่าย คุณจึงไม่ต้องกังวล
● ช่วยให้คุณมีงานแต่งที่ตรงกับความต้องการและงบประมาณ
● Wedding Planner ส่วนใหญ่จะมีข้อเสนอที่ดีจากสถานที่และ Vender ต่าง ๆ
● Wedding Planner มีประสบการณ์และความรู้เกี่ยวกับงานแต่งงาน ช่วยให้ทุกอย่างราบรื่น
● ประหยัดเวลาและลดความเครียด คุณจึงมีเวลาเตรียมตัวสำหรับงานแต่งและใช้เวลากับสิ่งอื่นได้

ข้อเสีย
● การจ้าง Wedding Planner มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
● คุณอาจมีอิทธิพลต่อการเตรียมงานแต่งงานของตัวเองน้อยลง
● ผู้จัดงานหรือ Wedding Planner อาจไม่เข้าใจความต้องการของคุณทั้งหมด

เปรียบเทียบการจัดการงานแต่งงานด้วยตัวเองกับการใช้ Wedding Planner

เพื่อเปรียบเทียบให้เห็นชัดเจนกับการจัดงานด้วยตัวเองและการใช้ Wedding Planner จะได้ข้อดีแบบไหนบ้าง

1. ด้านเวลา จัดเองใช้เวลามากกว่า จ้างแพลนเนอร์จะประหยัดเวลา
2. ด้านความเครียด จัดเองจะเครียดมาก จ้างแพลนเนอร์เครียดน้อย
3. ด้านการประหยัดเงินทั้งสองแบบอาจจะประหยัดได้พอ ๆ กันแล้วแต่งบประมาณ
4. ด้านความสมบูรณ์แบบ จัดเองอาจไม่สมบูรณ์แบบ จ้างแพลนเนอร์สมบูรณ์แบบกว่า
5. ด้านการติดต่อประสานงานหากจัดเอง ก็ทำเองทั้งหมดซึ่งใช้เวลาต่างจากมีคนมาทำให้
6. ด้านความรู้ แน่นอนว่าจ้างแพลนเนอร์รู้มากกว่าว่าอะไรเหมาะสมและอะไรไม่เหมาะสม

สถานการณ์ที่ Wedding Planner ช่วยแก้ปัญหาได้

1. ไม่มีเวลา
2. ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไร
3. ปัญหาเฉพาะหน้าที่อาจจะเกิดขึ้นยิ่งงานใหญ่ ยิ่งมีแน่นอน
4. อยากจัดงานในต่างประเทศแต่ไม่สามารถพูดภาษาท้องถิ่นได้
5. อยากหลีกเลี่ยงความขัดแย้งระหว่างการจัดงานกับครอบครัวและ Vendor

ค่าใช้จ่ายของ Wedding Planner โดยทั่วไป

สำหรับใครที่กำลังมองหาการจัดจ้าง Wedding Planner มาจัดงานแต่งให้อยู่ จะมีลักษณะการคำนวณค่าใช้จ่ายแล้วแต่ผู้รับจ้างดังต่อไปนี้

1. คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของงบงานแต่ง

โดยทั่วไปอยู่ที่ 10-20% ของงบงานทั้งหมด การคิดแบบนี้จึงเหมาะสำหรับงานที่มีงบประมาณสูง Wedding Planner จะมีแรงจูงใจในการหาข้อเสนอที่ดีจากผู้ขาย หรือ Vendor ต่าง ๆ

2. คิดเป็นค่าบริการรายชั่วโมง

โดยราคาที่คิดเป็นชั่วโมงจะอยู่ที่ 2,000-5,000 บาทต่อชั่วโมง เหมาะสำหรับงานที่มีงบจำกัด ต้องการควบคุมค่าใช้จ่าย โดยผู้จ้างต้องจ่ายแค่เฉพาะเวลาที่ Wedding Planner ทำงานเท่านั้น

3. คิดเป็นค่าแพ็กเกจ

ราคาเริ่มต้นที่ 20,000 บาท ขึ้นอยู่กับบริการที่รวมในแพ็กเกจ เหมาะสำหรับงานที่มีรูปแบบมาตรฐาน ต้องการความสะดวก แพ็กเกจมักรวมบริการหลัก เช่น วางแผน จองสถานที่ หาของจัดงาน หรือผ้าแพร เฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ

4. คิดค่าบริการเพิ่มเติม

อาจจะมีค่าบริการเพิ่มเติมตามมาที่หลัง แต่ควรตกลงกันให้ชัดเจนแล้วก่อนจ้าง ยกตัวอย่างเช่น ค่าเดินทาง ค่าที่พัก ค่าธรรมเนียมการโอนเงินต่าง ๆ

ราคาคร่าวๆ ของ Wedding Planner

● Wedding Planner ระดับเริ่มต้น 20,000-50,000 บาท
● Wedding Planner งานขนาดกลาง 50,000-100,000 บาท
● Wedding Planner จัดงานขนาดใหญ่จะมีราคาตั้งแต่ 100,000 บาทขึ้นไป

วิธีหา Wedding Planner ที่เหมาะกับงบประมาณ

ก่อนจะมองหาผู้ช่วยจัดงานแต่งงานที่สำคัญ ควรรู้ข้อมูลต่อไปนี้ให้ชัดเจนก่อนติดต่อสอบถาม ซึ่งได้แก่

กำหนดงบประมาณ

ควรกำหนดงบประมาณทั้งหมดสำหรับงานแต่งงาน กำหนดงบประมาณสำหรับ Wedding Planner และงบประมาณอื่น ๆ หรือว่ารวมในราคาเดียวไปเลยหากมีแบบชุดแต่งงานอลังการอยู่แล้วให้แนะนำมาด้วย

หาข้อมูล

ผู้จัดจ้างควรค้นหา Wedding Planner ทางออนไลน์ หรือถามเพื่อนหรือญาติที่เคยใช้บริการ Wedding Planner มาก่อน เพื่อเป็นข้อมูลช่วยพิจารณา

เปรียบเทียบราคาและบริการ

อย่าลืมเปรียบเทียบราคา รูปแบบการคิดค่าใช้จ่าย บริการที่รวมอยู่ในราคา รวมถึงขอใบเสนอราคาจาก Wedding Planner หลาย ๆ แห่ง

สัมภาษณ์ Wedding Planner

สัมภาษณ์ Wedding Planner ถามเกี่ยวกับประสบการณ์ สไตล์งาน ถามคำถามเกี่ยวกับค่าใช้จ่าย บริการเพิ่มเติมว่ามีค่าใช้จ่ายอย่างไรบ้าง

เลือก Wedding Planner ที่เหมาะสม

อย่ายึดติดกับราคาการจ้างมากเกินไป แต่ให้เน้นเลือก Wedding Planner ที่ตรงกับความต้องการ งบประมาณไม่บานปลาย และมีสไตล์งานที่เคยทำเหมาะสมกับคุณ

คำถามเพิ่มเติมที่ควรถาม Wedding Planner ก่อนจ้าง

หากตัดสินใจแล้วว่ายังไงการจ้าง Wedding Planner คือคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับคุณแล้วละก็ ทางเราก็ยังมีคำถามแนะนำที่รับรองว่าเป็นประโยชน์ต่อคู่รักก่อนจ้างงานแน่นอน ซึ่งได้แก่
‍
1. คุณมีทีมงานกี่คน?
2. มีรีวิวจากลูกค้าไหม?
3. คุณมีสัญญาจ้างไหม?
4. ลูกค้าส่วนใหญ่พอใจกับงานไหม?
5. คุณจะติดต่อสื่อสารกับฉันอย่างไร?
6. เคยจัดงานแต่งงานแบบไหนมาบ้าง?
7. คุณจะจัดการกับปัญหาเฉพาะหน้าอย่างไร?

จัดงานแต่งงาน Wedding Planner คือผู้ช่วยสำคัญที่จะเนรมิตงานแต่งงานในฝันของคุณให้เป็นจริง!

อย่าลืมว่างานแต่งงานมีเพียงแค่ครั้งเดียวในชีวิตเท่านั้นสำหรับบางคน อยากให้งานแต่งงานออกมาดี ผู้มีประสบการณ์จะทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้นเสมอ อย่าลืมว่า หากคุณเป็นผู้ที่มีเวลาจำกัด, ต้องการงานแต่งที่สมบูรณ์แบบ, ต้องการความช่วยเหลือด้านวางแผนและจัดการ คือตอบที่ใช่ที่สุดสำหรับคุณแน่นอน ปรึกษาทีมงานได้ที่ wisdombridal.com