BLOGS

BY WISDOM BRIDAL BOUTIQUE

รู้ก่อนแต่ง เช็คลิสต์วางแผนงานแต่งงานต้องทำอะไรบ้าง ?

รู้ก่อนแต่ง เช็คลิสต์วางแผนงานแต่งงานต้องทำอะไรบ้าง ?

หลังจากที่ ว่าที่เจ้าสาวโดนว่าที่เจ้าบ่าวคุกเข่าขอแต่งงาน พร้อม said yes  พร้อมการพูดคุยกับผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายแล้ว การวางแผนเตรียมงานแต่งงานจึงได้เริ่มต้นขึ้น และจุดนี้เองที่บ่าว-สาวอาจเกิดความสับสนในรายละเอียดที่มีมากมาย จนไม่รู้จะเริ่มต้นจากตรงไหน   และเกิดความกังวลว่าจะเตรียมงานทันวันไหม งานจะออกมาสมบูรณ์แบบไหม และตรงตามเวลาที่ได้ฤกษ์มาหรือไม่ วางแผนงานอย่างไรดี สามารถเตรียมตัวไปทีละขั้นตอนตามนี้ได้เลย

ชุด ไทย แต่งงาน เรียบๆ

1.   ดูฤกษ์ และกำหนดวันแต่งงาน

1.  ดูฤกษ์ และกำหนดวันแต่งงาน

ก่อนอื่นใด สิ่งแรกที่จะต้องทำเลยคือการดูฤกษ์และกำหนดวันที่ในการจัดงานแต่งงาน ส่วนมากก็จะเป็นความเชื่อของคนไทยหาวันที่ดีของคู่บ่าว-สาว เพราะถือว่าให้มีฤกษ์การเริ่มต้นชีวิตคู่ที่ดี ส่วนใหญ่หลายคู่จะแต่งงานกันช่วงปลายปีและช่วงต้นปี   หากฤกษ์ของบ่าว-สาวตรงกับช่วงนั้น ๆ จะต้องเหลือเวลาเตรียมการล่วงหน้าอย่างน้อย 6-10 เดือน เพื่อให้ได้งานแต่งงานที่ดีที่สุด

2.   ตกลงเรื่องสินสอด และงบประมาณในการจัดงานแต่งงาน

2.   ตกลงเรื่องสินสอด และงบประมาณในการจัดงานแต่งงาน

ก่อนที่ฝ่ายชายจะขอฝ่ายเจ้าสาวแต่งงาน  สิ่งที่สำคัญมากและขาดไม่ได้เลยนั่นก็คือ เรื่องสินสอดในพิธีหมั้น ควรตกลงกันให้เรียบร้อยระหว่างสองครอบครัวเรื่องจำนวนสินสอดงานหมั้น หรือในปัจจุบันเจ้าบ่าว-สาวยุคใหม่ ก็อาจจะมีความคิดการตัดสินใจที่เปลี่ยนไปที่ไม่ได้ต้องการค่าสินสอด ตรงนี้ก็ขึ้นอยู่กับการตกลงกันของทั้งสองฝ่าย ต่อมาคือการตั้งงบประมาณที่จะใช้จัดงานแต่งงาน เพื่อที่จะได้ควบคุมการใช้จ่ายให้ไม่มีปัญหาในภายหลัง โดยการตั้งงบประมาณอาจสอบถามจากบ่าว-สาวที่มีประสบการณ์ ข้อมูลจาก internet   หรือเริ่มต้นจากการหาสถานที่ที่เหมาะสมก่อน

Wedding Studio Bangkok

อีกหนึ่งเรื่องสำคัญ คือการจัดหาสถานที่จัดงานแต่งงาน ควรเป็นสถานที่ที่ถูกใจทั้งบ่าว-สาว และสะดวกในการจัดงาน   รวมถึงลิสต์ชื่อแขกที่จะเชิญมางานแต่งงานด้วย ควรคำนึงถึงความชอบส่วนตัว 50% ความสบายใจของแขกและครอบครัวอีก 50%   อาจหมายรวมถึงความสะดวกสบายในการเดินทางมายังสถานที่จัดงาน ที่จอดรถเพียงพอ ระยะทางที่ไม่ลำบากจนเกินไป   เพื่อให้งานเพอร์เฟกต์ที่สุด

ร้านเช่าชุดแต่งงาน รามอินทรา

ยุคนี้ สิ่งจำเป็นเลยคือต้องมีธีม เพื่อทำให้ภาพรวมของงานออกมาสวยงามและเป็นไปในทางเดียวกันมากที่สุด   การเลือกธีมงานแต่งงานที่บ่งบอกถึงตัวตนของคู่บ่าว-สาวให้ได้มากที่สุด ทั้งสีชุดของแขก การตกแต่งภายในงาน เพื่อเป็นความประทับใจในวันพิเศษ ที่จะถูกบันทึกไว้ให้คู่บ่าว-สาว เก็บไว้ชื่นชมตลอดไป

5. ภาพ Pre Wedding

5. ภาพ Pre Wedding

การถ่ายภาพ Pre Wedding เป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม เพราะงานแต่งที่ไม่มีภาพเจ้าบ่าว-สาว นั้นเป็นไปไม่ได้เลย ดังนั้นการถ่ายภาพมีความสำคัญ และสามารถนำมาจัดตกแต่งภายในงาน ใช้ภาพประกอบในการ์ดแต่งงาน หรือเป็นการเก็บภาพเพื่อบันทึกความทรงจำที่บ่าว-สาวได้พบหรือได้ใช้เวลาร่วมกันมา และภาพถ่ายทั้งหมดนี้อาจใช้ประดับเรือนหอ และเก็บไว้ให้ลูกหลานได้เชยชมในอนาคตอีกด้วย

5. จัดหาคนดำเนินงานเรื่อง พิธีหมั้น แห่ขันหมากและ ยกน้ำชา

5. จัดหาคนดำเนินงานเรื่อง พิธีหมั้น แห่ขันหมากและ ยกน้ำชา

การเตรียมตัวเข้าสู่พิธี สำหรับบ่าว-สาวที่ไม่มีประสบการณ์ และไม่ทราบรายละเอียด ดังนั้นจึงควรหาผู้รู้ประเพณีในการช่วยตระเตรียมจัดของแห่ขันหมาก หาเป็นพิธีกรที่ช่วยสร้างบรรยากาศ และอารมณ์ร่วมในระหว่างพิธีให้เป็นไปอย่างราบรื่น อาจจะเป็นคนรู้จัก หรือจ้างมาเลยก็ได้   หรือจะเป็นญาติผู้ใหญ่ คนใกล้ชิดที่มีประสบการณ์ในเรื่องงานพิธีหมั้นหมายมาช่วยงาน แต่ในปัจจุบันจะมีผู้ที่รับดูแลจัดงานแต่งงานอย่างครบวงจรที่มีความรู้ และประสบการณ์ในทุก ๆ ด้านอย่างครบครัน ก็จะเพิ่มความสะดวกสบายให้กับคู่บ่าว-สาว และญาติ ๆ มากยิ่งขึ้น

6. แจกการ์ดเชิญ

6. แจกการ์ดเชิญ‍

จัดงานแต่งงานทั้งที ต้องมีสักขีพยานรัก การแจกการ์ดก็ถือเป็นธรรมเนียมสำคัญ และถือเป็นการให้เกียรติกับแขกที่มาร่วมงานอีกด้วย โดยส่วนใหญ่จะออกแบบการ์ดให้เข้ากับธีมของงาน เพื่อให้แขกได้เตรียมตัว และเตรียมชุดออกงานให้ตรงกับที่คู่บ่าว-สาวต้องการ นอกจากนี้การเชิญแขกยังเป็นการสร้างมิตรภาพให้กับคนที่ได้รับเชิญ และอาจจะมีการนัดทานข้าว   นัดสังสรรค์ร่วมยินดี ถือเป็นช่วงเวลาดี ๆ ที่มีความสุขตั้งแต่ก่อนงานแต่งงานอีกด้วย

7. ดูแลร่างกาย และผิวพรรณ

7. ดูแลร่างกาย และผิวพรรณ

ขั้นตอนนี้ บางคู่บ่าว-สาวอาจไม่เห็นถึงความสำคัญในข้อนี้ แต่อีกหลายคู่ก็ให้ความสำคัญมาก ๆ เพราะถือเป็นวันที่สำคัญที่สุดในชีวิต ก็ยากจะดูดีและโดนเด่นในทุกมิติ ดังนั้นการเตรียมตัวดูและร่างกาย ดูแลผิวพรรณด้วยการเข้าสปา หรือการกระชับสัดส่วนให้ดูดีโดยการฟิตเนส เข้าคอร์สต่าง ๆ ก็ถือเป็นการเตรียมตัวที่ดี และยังถือเป็นผลดีต่อตัวบ่าว-สาว เองในระยะยาวอีกด้วย

8. เลือกชุดแต่งงาน

8. เลือกชุดแต่งงาน

อีกหนึ่งสิ่งที่เรียกได้ว่าขาดไม่ได้ เป็นจุดพีคเลยก็ว่าได้ คือการเลือกชุดแต่งงาน โดยทั่วไปแล้วชุดแต่งงานของบ่าว-สาว จะมี 2 ชุด   คือชุดสำหรับพิธีหมั้นหมาย และชุดสำหรับงานเลี้ยงฉลองมงคลสมรส สำหรับชุดในพิธีหมั้นหมาย หากเป็นพิธีไทย บ่าว-สาวควรสวมใส่ชุดไทย   แต่หากเป็นพิธียกน้ำชา ก็ควรสวมใส่ชุดที่เหมาะสมกับพิธี อาจจะเป็นชุดสีชมพู สีแดง หรือชุดกี่เพ้าสมัยใหม่

การเลือกซื้อ หรือเช่าชุดแต่งงาน จะแบ่งออกเป็น 3 รูปแบบ คือ
- การซื้อขาด : เหมาะสำหรับบ่าว-สาวที่มีงบประมาณมาก ต้องการออกแบบชุดตามที่ต้องการ และต้องการเก็บชุดไว้เป็นที่ระลึก ไม่ต้องส่งคืนร้าน
- แบบเช่าตัด : เป็นที่นิยมมาก เนื่องจากบ่าว-สาว สามารถออกแบบชุดตามที่ตัวเองต้องการได้ และตัดชุดตามรูปร่างของตัวเอง   แต่เมื่อผ่านพ้นพิธีไปแล้ว จะต้องนำมาคืนให้กับร้าน จะราคาประหยัดกว่าการการซื้อขาด
- แบบเช่าคืน : เหมาะสำหรับบ่าว-สาวที่ต้องการประหยัดงบประมาณ สามารถเช่าชุดจากที่ร้าน และนำมาคืนหลังงานแต่งงานโดยจะไม่สามารถแก้แบบของชุดให้เป็นไปตามแบบที่ต้องการได้ อย่างไรการเตรียมตัวก็ขึ้นอยู่กับเจ้าบ่าว-สาว ว่าสะดวกด้านไหนก่อน ก็สามารถจัดการในส่วนที่สะดวก และสามารถทำได้ก่อนได้เลย เพราะการเตรียมการทั้งหมดขึ้นอยู่กับเวลาและความสามารถของบ่าว-สาว ที่จะจัดสรรเวลาในการเตรียมการทั้งหมดด้วย

ร้านเช่าชุดไทย รามอินทรา, Wedding Studio Bangkok ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
Tel : 086-355-0454, 086-387-4303
Facebook : wisdomwedding
Line : @wisdombridal

ความรู้ที่น่าสนใจอื่นๆ

CONTACT

ที่อยู่ 206 ถ.รามอินทรา กม.4 ปากซอย 10 กรุงเทพมหานคร

SERVICE

POLICY

เช่า - ตัด ชุดวิวาห์ ชุดไทย ชุดราตรี สูท บริการถ่ายภาพแต่งงาน ครอบครัว บริการแต่งหน้า และ ทำผม การ์ดเชิญ และ ของชำร่วย ถ่ายวีดีโอ ในวันงานเลี้ยง ถ่ายภาพ ในวันงานเลี้ยง

POLICY

FACEBOOK PAGE

© Wisdom Bridal Boutique.​ All right reserved

Copyright © 2023,Wisdom Bridal Boutique บริการ ถ่ายภาพพรีเวดดิ้ง PREWEDDING รับถ่ายพรีเวดดิ้ง รับถ่ายรูปพรีเวดดิ้ง ราคา PREWEDDING เช่าชุดเจ้าสาว รามอินทรา

MAP

LINE

TEL